ยิ่งอายุมากขึ้น หรือมีความเครียดเพิ่มขึ้นเท่าไร “ปัญหาเรื่องผม” ของผู้ชายก็ยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผมมัน ผมร่วง ผมบาง หรือปัญหาอื่น ๆ เชื่อว่าน่าจะมีคุณผู้ชายไม่น้อยที่กำลังหนักอกหนักใจกับเรื่องนี้อยู่ ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาเป็นคู่มือให้ผู้ชายทุกคน โดยจะหยิบยก 6 ปัญหาเรื่องผมที่ผู้ชายเป็นมากที่สุดมาอธิบายให้เข้าใจ พร้อมปิดท้ายด้วยวิธีรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามได้เลย
ศีรษะล้าน หน้าผากกว้าง
ศีรษะล้านคือหนึ่งในปัญหาเรื่องผมที่ผู้ชายพบได้บ่อยที่สุด โดยพบได้ประมาณ 50% ของผู้ชายที่อายุ 50 ปีขึ้นไป และประมาณ 80% เมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
- พันธุกรรม: สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการศีรษะล้านในผู้ชายเกิดจากพันธุกรรม โดยยีนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของผมจะมีความผิดปกติ ทำให้ผมร่วงเร็วกว่าควรจะเป็น และเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะบางลง
- อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย DHT มากขึ้น ซึ่งฮอร์โมน DHT จะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผม
- โรคและยาบางชนิด: เช่น โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โรคคุชชิง โรคแอดดิสัน การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยารักษาโรคซึมเศร้า ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วงได้เช่นกัน
สำหรับแนวทางการรักษาอาการศีรษะล้านหลัก ๆ มีอยู่ด้วยกัน 2 แนวทาง ได้แก่
- การปลูกผม ซึ่งก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธี FUE (Follicular Unit Extraction) หรือแบบ FUT (Folliculair Unit Transplantation)
- การใช้ยาช่วยรักษา เช่น ไมน็อกซิดิล (Minoxidil) ยาฟีนาสเตไรด์ (Finasteride) โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องเป็นคนสั่งจ่ายเท่านั้น
ผมบาง
ผมบางคืออีกหนึ่งปัญหาเรื่องผมผู้ชายที่พบได้บ่อย โดยอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุหลักก็หนีไม่พ้นเรื่องของพันธุกรรม ที่คิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 95% ของผู้ชายที่มีปัญหาผมบาง โดยเกิดจากยีนที่มีความผิดปกติ ทำให้เส้นผมเติบโตได้สั้นลง และมีอายุการใช้งานสั้นลง ส่งผลให้ผมร่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ
อาการของผมบางที่เกิดจากพันธุกรรม มักเริ่มขึ้นในช่วงอายุ 20-30 ปี ลักษณะที่พบบ่อย คือ ผมจะร่วงบริเวณขมับและหน้าผาก เป็นรูปตัว M หรือเป็นรูปตัว U บริเวณกลางศีรษะ ทำให้ผมบางลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งศีรษะล้านในที่สุด
อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะปัญหานี้ยังมีวิธีแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น
- การใช้ยา: ในปัจจุบันมียาที่ใช้ในการรักษาผมบางที่เกิดจากพันธุกรรม เช่น Finasteride และ Minoxidil ยาเหล่านี้จะช่วยยับยั้งการหลุดร่วงของเส้นผม และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่
- การปลูกผม: การปลูกผมเป็นวิธีรักษาผมบางที่ได้ผลอีกวิธี โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การปลูกแบบ FUE หรือ FUT
- การทำทรีทเมนต์ต่างๆ เป็นการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้น, การฉีด Exosome เป็นต้น หรือ การใช้เลเซอร์กระตุ้นรากผม (LLLT)
ผมหงอก
เป็นธรรมดาที่เมื่ออายุมากขึ้น เส้นผมบนหนังศีรษะที่เคยดกดำจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาไปจนถึงขาว หรือที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ผมหงอก” เหตุที่เป็นเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะผลิตเม็ดสีเมลานินในเส้นผมได้น้อยลง ทำให้เส้นผมมีสีจางลง นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องผมหงอกในผู้ชายได้เช่นกัน ดังต่อไปนี้
- กรรมพันธุ์: หากคุณมีประวัติครอบครัวที่มีผมหงอกก่อนวัย คุณก็อาจมีแนวโน้มเกิดผมหงอกก่อนวัยได้เช่นกัน
- ความเครียด: ความเครียดสามารถส่งผลต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบ รวมถึงการผลิตเม็ดสีของเส้นผมด้วย ดังนั้น การอยู่ในภาวะเครียดเป็นเวลานานอาจทำให้ผมหงอกก่อนวัยได้
- การขาดสารอาหาร: เช่น วิตามินบี12 วิตามินซี ธาตุเหล็ก และสังกะสี
- โรคบางชนิด: เช่น โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง และโรคตับ
ถึงแม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีรักษาผมหงอกให้กลับมาดำได้ถาวร แต่มีวิธีต่าง ๆ ที่สามารถช่วยชะลอการเกิดผมหงอกหรือทำให้ผมหงอกช้าลงได้ ดังต่อไปนี้
- การย้อมผม: เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการปกปิดผมหงอก อย่างไรก็ตาม การย้อมผมบ่อย ๆ อาจทำให้ผมแห้งเสียได้
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม: ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมบางชนิดอาจช่วยชะลอการผมหงอกได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไบโอติน สารสกัดจากชาเขียว และสารสกัดจากใบแปะก๊วย
ผมมัน
ผมมันคืออีกหนึ่งปัญหาที่น่ากวนใจไม่แพ้ผมบาง แต่ในส่วนของสาเหตุจะแตกต่างกัน เพราะผมมันเกิดจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ถึงแม้น้ำมันเหล่านี้จะทำหน้าที่ปกป้องหนังศีรษะไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น ทว่าหากผลิตออกมามากเกินไปก็จะทำให้ผมดูเงามัน เหนียวเหนอะหนะ โดยปัจจัยที่ทำให้น้ำมันหลั่งออกมาเยอะเกินควร ได้แก่
- พันธุกรรม
- ฮอร์โมนเพศชาย
- สภาพอากาศร้อนชื้น
- การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีน้ำมัน
- การสระผมน้อยหรือบ่อยเกินไป
ถึงแม้ปัญหาผมมันจะไม่ร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานาน ก็อาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องผมผู้ชายที่ใหญ่กว่าได้เช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาผมร่วง ดังนั้น เพื่อลดความมันบนเส้นผม สามารถทำตามแนวทางด้านล่างนี้ได้เลย
- สระผมแบบพอดี โดยทั่วไปแล้วแนะนำที่วันละ 1 ครั้ง
- เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมสูตรสำหรับผมมัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีน้ำมัน
รังแค
ปิดท้ายด้วยปัญหาเรื่องผมผู้ชายที่เชื่อว่าคงไม่มีสุภาพบุรุษท่านใดอยากพบเจอ เพราะนอกจากจะสร้างความน่ารำคาญแล้ว ยังทำให้ภาพลักษณ์ดูติดลบได้เลย นั่นก็คือ “รังแค” โดยสาเหตุของรังแคเกิดจากเชื้อรา Malassezia Globosa ซึ่งอาศัยอยู่บนหนังศีรษะของเราทุกคน โดยเชื้อราชนิดนี้จะช่วยย่อยไขมันบนหนังศีรษะ ทำให้เกิดกรดไขมันโอเลอิก ซึ่งอาจไปกระตุ้นจนทำให้เกิดการอักเสบและทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นบนผลัดตัวเร็วกว่าปกติ
ในส่วนของแนวทางแก้ไขบรรเทาปัญหารังแค มีดังต่อไปนี้
- การใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของสารต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล เซลีเนียม ซัลไฟด์ หรือพิริทาซีน โมโนเนียมิเนียม
- การปรับพฤติกรรมการดูแลเส้นผม เช่น สระผมอย่างน้อยวันละครั้ง หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่นจัด รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อย ๆ
จบทุกปัญหาเรื่องผมผู้ชาย ที่ MAX HAIR CLINIC
ถึงแม้ปัญหาเรื่องผมที่ผู้ชายต้องเจอจะมีมากมาย แต่ถ้ามีวิธีรักษาที่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอย่างที่คิด สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ MAX HAIR CLINIC คลินิกเวชกรรมบริการด้านเส้นผมครบวงจร ดูแลและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์และเทคนิคเฉพาะทางระดับโลก พร้อมให้คำแนะนำวิธีแก้ผมร่วง ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้เข้ารับบริการเป็นจํานวนมาก รวมถึงดารานักแสดงมากมาย สามารถนัดคิวปรึกษา หรือรับการประเมินปัญหาเส้นผมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ Max Hair ทั้ง 8 สาขาทั่วไทย หรือติดต่อผ่านช่องทาง Line Official @maxhair